ซื้อบ้าน VS เช่าบ้าน ที่อยู่อาศัยแบบไหนดีกว่ากัน?
หนึ่งในปัจจัย 4 พื้นฐานสำคัญของมนุษย์ในการดำรงชีวิตประจำวันก็คือ บ้านที่อยู่อาศัย เพื่อความสุข ความปลอดภัย ความมั่นคงในชีวิต เป็นเป้าหมายที่หลายคนวาดฝันไว้อยากจะมีสินทรัพย์เป็นของตนเอง ด้วยการเริ่มนึกถึง
“การซื้อบ้าน” ไม่ว่าจะเป็น บ้าน อาคารพาณิชย์ ทาวน์โฮม ทาวน์เฮ้าส์ คอนโด ที่มีราคาสูงขึ้นทุกปีอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีคนจำนวนไม่น้อยที่ถูกปลูกฝังความคิดว่าควรมีเป้าหมายในชีวิตด้วยการซื้อบ้านเป็นชื่อตัวเองดีกว่าไปเช่าอาศัยอยู่
แต่ในความเป็นจริงนั้น การซื้อบ้านเป็นเจ้าของบ้านเองนั้นมีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหน มีสิ่งหนึ่งที่เราต้องไม่ลืม ก็คือเมื่อเราตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยไปแล้ว การใช้ชีวิตของเราก็จะเปลี่ยนไป ด้วยการมีหนี้สินก้อนโต ที่ต้องผ่อนทุกเดือนซึ่งเป็นภาระผูกพันนานถึง 30-60 ปี ที่รออยู่ในอนาคต
แต่ในขณะที่ “การเช่าบ้าน” เป็นที่พักอาศัยด้วยความปลอดภัยเหมือนกัน แตกต่างกันที่ต้องชำระจ่ายค่าเช่าทุกเดือน ที่ไม่มีวันเป็นสินทรัพย์ของเรา และในยุคปัจจุบันคนรุ่นใหม่เกิดมีแนวความคิดเรื่องการเช่าบ้านมากกว่าการซื้อบ้าน
เนื่องจากความไม่พร้อมที่จะกู้เงินซื้อบ้านในระยะยาว ด้วยไม่พร้อมที่จะเป็นหนี้สินก้อนใหญ่ และความไม่แน่นอนของสภาพเศรษฐกิจ เช่น ดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านสูง ฯลฯ หรือในความจริงแล้วอาจจะสะดวกการเช่าอยู่มากกว่าก็เป็นได้
เพราะการซื้อบ้านกับการเช่าบ้าน มีทั้งข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับการพิจารณาถึงความจำเป็น ความเหมาะสมของสถานะทางการเงินของแต่ละบุคคล
ในบทความนี้เราจะศึกษาดูระหว่างการซื้อบ้าน หรือเช่าอาศัยอยู่ ว่าแบบไหนตรงกับไลฟ์สไตล์ของตัวเองมากที่สุด เพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจและเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นตามมาด้วย
1. ความคล่องตัวอิสระทางการเงิน
ทีมกู้ซื้อ: การกู้ยืมเงินมาซื้อบ้านที่อยู่อาศัย มีภาระผูกพันทางการเงินในระยะยาว ต้องใช้เวลาผ่อนส่งค่างวดให้สถาบันทางการเงินนานถึง 20-40 ปี โดยประมาณ ถ้าหากขาดส่งผ่อนบ้าน หรือผิดนัดชำระหนี้แล้ว ทำให้เกิดดอกเบี้ยค้างชำระขึ้นมา สุดท้ายก็มีโอกาสถูกยึดบ้านที่อยู่อาศัยได้ ฉะนั้นการซื้อบ้านจึงเป็นการตัดสินใจครั้งใหญ่ ที่จะต้องบริหารคิดวางแผนให้รอบคอบว่าจะลงหลักปักฐานกับบ้านหลังอย่างชัดเจนและตั้งใจอย่างแน่วแน่
ต้องยอมรับกับภาระค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ให้แก่สถาบันการเงินอีกด้วย แต่ยังมีข้อดีคือสามารถนำดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านมาลดหย่อนภาษีได้ในระหว่างการผ่อนชำระ ซึ่งเป็นผลประโยชน์ในการเข้าอยู่อาศัยในบ้านขณะที่เราพักอาศัย ซึ่งช่วยเพิ่มมูลค่าคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ และเมื่อถึงวันครบกำหนดผ่อนชำระตามสัญญาสินเชื่อบ้านหมดเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่ตามมาคือ “ความภาคภูมิใจ” ที่เราได้ตั้งใจซื้อไว้ได้เป็นเจ้าของบ้านในที่สุด
ทีมเช่าอยู่: การเช่าบ้านเป็นการสร้างภาระผูกพันทางการเงินในระยะสั้น เพราะเจ้าบ้านจะบังคับให้เราต้องทำสัญญาเช่ากับเจ้าของบ้าน ซึ่งมีให้เลือกทำสัญญาเช่าบ้านเพื่อพักอยู่อาศัย ระยะเวลา 6 เดือน หรือ 1 ปี และมีเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่ม เช่น ค่ามัดจำล่วงหน้า ค่าประกัน ฯลฯ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของบ้านเช่าแต่ละที่ ซึ่งการเช่าบ้านลักษณะแบบนี้จึงเป็นที่นิยมของคนรุ่นใหม่จำนวนมากที่ไม่ต้องการสร้างภาระผูกพันระยะยาวๆ ทำให้แนวทางการใช้ชีวิตประจำวันมีอิสระมากขึ้นใน
การย้ายสถานที่ทำงานได้ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเติบโตกับการหางานในสถานที่ทำงานใหม่ๆได้ เมื่อต้องการความเปลี่ยนแปลงในหน้าที่การงาน นอกจากนี้หลายคนอาจจะมองว่าในการตัดสินใจเช่าบ้าน ได้เห็นโอกาสในการนำเงินเก็บส่วนที่เหลือ ไปลงทุนในด้านอื่นๆอีกด้วยในที่ตัวเองถนัด
2. ความเสี่ยงดอกเบี้ยบ้าน
ทีมกู้ซื้อ: โดยปกติแล้วสถาบันการเงินจะมีโปรแกรมคำนวณดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน 2 แบบ คือ
2.1. อัตราดอกเบี้ยคงที่ (Fixed Rate Loan) อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านที่กำหนดไว้ให้คงที่ตลอด ตามระยะเวลาที่ระบุไว้ในสัญญากู้ยืมเงินที่ชัดเจน มักจะเป็นข้อเสนอระยะสั้น
2.2. อัตราดอกเบี้ยลอยตัว (Floating Rate Loan) อัตราดอกเบี้ยที่ไม่ได้มีค่าแน่นอนอาจเปลี่ยนแปลงขึ้น-ลงได้ และไม่ได้ถูกกำหนดว่าจะมีการปรับล่วงหน้า จะผันแปรไปตามภาวะเศรษฐกิจ
ดังนั้น จึงเป็นความเสี่ยงของทีมกู้ซื้อที่อาจเจอภาระดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นในช่วงที่มีการปรับตัวเพิ่ม หากเรายังผ่อนค่างวดเท่าเดิม ในขณะที่ระยะเวลาผ่อนจะนานขึ้น ในทางที่ดีหากเราจ่ายค่างวดเพิ่มขึ้น และมีรายได้เข้ามาหรือมีเงินเหลือเก็บ ก็ควรนำเงินส่วนนี้มาโปะเพิ่มเพื่อลดเงินต้น ซึ่งจะช่วยให้ภาระดอกเบี้ยลดเบาบางลงได้อีกทางหนึ่งด้วย และเมื่อผ่อนบ้านครบ 3 ปี จนหมดโปรโมชั่น ทำให้ดอกเบี้ยเริ่มขยับสูงขึ้น จังหวะนี้อาจต้องหาวิธีลดอัตราดอกเบี้ยลง
โดยการขอยื่นเรื่องกับสถาบันการเงินปัจจุบันให้ช่วยพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ใหม่ให้ต่ำลง เรียกว่า รีเทนชั่น หรืออาจขอย้ายสินเชื่อไปอยู่กับสถาบันการเงินแหล่งใหม่ ที่เรียกว่า รีไฟแนนซ์บ้าน ก็เป็นทางเลือกที่ช่วยให้เราจัดการกับภาระดอกเบี้ยได้ดีขึ้นมาก
ทีมเช่าอยู่: การเช่าบ้าน จะมีข้อดีคือไม่ต้องมาเกี่ยวข้องกับอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นในตลาด แต่เราอยู่ในสถานการณ์เศรษฐกิจที่มีอัตราเงินเฟ้อโลกที่กำลังปรับสูงขึ้น ทำให้ราคาสินค้า-บริการปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆในอนาคตเช่นกัน
ถ้าหากได้มีการต่อสัญญาเช่าบ้านแน่นอนว่าการทำสัญญาเช่าบ้านครั้งใหม่ เจ้าของบ้านอาจจะขอขึ้นราคาค่าเช่าบ้าน ทำให้เรามีค่าใช้จ่ายต่อเดือนสูงขึ้นตาม และทำให้เกิดผลกระทบทางการเงินได้ ดังนั้น หากมีความคิดว่าอยากจะเช่าบ้านต่อไป
ควรสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเจ้าของบ้าน ด้วยการดูแลบ้านให้สะอาดและเรียบร้อยจนเป็นนิสัย ควรจ่ายเงินค่าเช่าบ้านให้ตรงต่อเวลา เพื่อที่จะทำให้เจ้าของบ้านมองเห็นว่า ปล่อยให้เช่าแล้วรู้สึกสบายใจ ก็อาจจะทำให้การเจรจาต่อรองง่ายขึ้น
หรืออาจจะลองเปลี่ยนใจให้เป็นโอกาสที่เราจะหาเจอบ้านเช่าหลังใหม่ พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าเฟอร์นิเจอร์สวยหรูหราใหม่กว่าเดิม ในราคาค่าเช่าที่คุ้มค่ากว่าเดิมได้
3. ความเป็นเจ้าของบ้าน
ทีมกู้ซื้อ: การมีบ้านเป็นของตัวเองคือการลงทุนในอนาคต ซึ่งเป็นข้อดีของการตัดสินใจซื้อบ้านที่เราได้เป็นเจ้าของบ้านตัวจริง บ้านเป็นทั้งที่พักอาศัย เป็นสินทรัพย์ที่เพิ่มมูลค่าขึ้นเรื่อยๆ และยังเป็นสัญลักษณ์ของความก้าวหน้าในชีวิต สามารถทำอะไรใช้ชีวิตประจำวันตามไลฟ์สไตล์ได้อย่างเต็มที่ สามารถเป็นหลักค้ำประกัน จำนองบ้านได้ และส่งต่อสินทรัพย์ที่อยู่อาศัยให้กับคนที่เรารักได้ในอนาคต หรือแม้แต่จะตัดสินใจขายบ้านออกไปก่อน ก็เท่ากับเรายังได้เงินกลับมาอีกส่วนหนึ่งได้เช่นกัน
ทีมเช่าอยู่: การเช่าบ้านทำให้เราได้สิทธิ์อาศัยอยู่ในบ้านหลังนั้นตามระยะเวลาที่ตกลงกันไว้ ถึงแม้ว่าเงินที่จ่ายค่าเช่าบ้านเป็นการจ่ายเพื่อปัจจัยพื้นฐานของชีวิต คือที่อยู่อาศัย หลับนอน และเก็บทรัพย์สินส่วนที่เหลือของเรา ซึ่งเป็นความต้องการพื้นฐานจำเป็นโดยไม่ต้องซื้ออสังหาริมทรัพย์หากเราชอบการใช้ชีวิตอยู่ในเมือง ถึงแม้ว่าบางครั้งค่าผ่อนซื้อบ้านอาจถูกกว่าค่าเช่าบ้าน แต่ความจริงข้อหนึ่งที่ต้องยอมรับคือ บ้านที่ซื้อเหล่านี้มักจะอยู่ในทำเลที่ห่างออกไปจากตัวเมืองมาก
ในขณะที่การซื้อบ้านในเมืองก็แพงเกินเอื้อมถึง การเช่าบ้านอยู่ในเมือง จึงเป็นการตอบโจทย์ในเรื่องของพื้นที่ทำเลดีในราคาที่จ่ายไหว ใกล้แหล่งช้อปปิ้ง ใกล้ย่านธุรกิจ หรือใกล้สถานที่ทำงาน สามารถลดเวลาเดินทางได้ เรียกง่ายๆ ว่าสะดวกสบายสำหรับไลฟ์สไตล์คนเมืองได้มากกว่า ฉะนั้น การเช่าอยู่ก็อาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง
4. วิธีวางแผนการเงิน
ทีมกู้ซื้อ: การเริ่มวางแผนการเงินเมื่อมีการกำหนดเป้าหมายชัดเจนในการซื้อบ้าน ทั้งทำเลที่ตั้ง ขนาดบ้าน รวมถึงลิสต์ค่าใช้จ่ายอื่นๆที่จะตามมาไว้เรียบร้อยแล้ว เช่น เงินดาวน์ ค่าทำนิติกรรม ค่าจดทะเบียนจำนอง ค่าประกันอัคคีภัย ค่างวดผ่อนชำระ ฯลฯ
นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายเพื่อเตรียมตัวก่อนเข้าอยู่อาศัย เช่น ค่าส่วนกลาง ค่าตกแต่งบ้าน ค่าเฟอร์นิเจอร์ ค่าเครื่องใช้ไฟฟ้า ค่าติดตั้งเกี่ยวกับสาธารณูปโภค มิเตอร์น้ำ-ไฟฟ้า ค่าอินเทอร์เน็ต ฯลฯ เมื่อได้เวลาการวางแผนการเงินให้พร้อมเริ่มต้นจากการ พิจารณาว่าจะซื้อบ้านด้วยวิธีไหน ระหว่างวิธีการขอสินเชื่อบ้านกับสถาบันการเงิน หรือวิธีการเก็บเงินก้อนส่วนหนึ่งไปซื้อบ้าน นอกจากนี้ยังมีขั้นตอนการจองบ้านที่มีขั้นตอนตามเงื่อนไข รวมถึงโปรโมชันต่างๆตามแต่ละโครงการ และเตรียมเอกสารสำคัญ ให้ครบถ้วนอีกด้วย ดังนั้น ทีมกู้ซื้อมีหลายเรื่องที่ต้องคิดบริหารและวางแผนอย่างรอบคอบให้ดีหากมีสินเชื่อบ้านที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายเหล่านี้ ก็อาจจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
ทีมเช่าอยู่: การวางแผนการเช่าบ้านจะต้องเจอกับค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ในช่วงแรก เช่น ค่ามัดจำที่จะเก็บล่วงหน้า 1-2 เดือน และค่าประกัน ขึ้นอยู่กับสถานที่เช่าบ้าน ซึ่งหลังจากนั้นจะจ่ายเพียงค่าเช่ารายเดือน ค่าน้ำ-ค่าไฟตามมิเตอร์ ค่าขยะ
ตามที่ตกลงในสัญญาเช่าในเงื่อนไข ดังนั้น เมื่อมีการวางแผนการเงินสำหรับค่าใช้จ่ายส่วนนี้อาจจะไม่ยุ่งยากมากนัก แต่ก็ต้องมีวินัยในการใช้จ่ายและวางแผนการเงินให้ดี เพราะอาจจะทำให้เราเพลิดเพลินกับการใช้จ่ายเงินที่ไม่จำเป็นได้
แต่ควรเก็บออมหรือลงทุนให้ได้มากขึ้นแทน เพราะการเช่าบ้านอยู่นั้น ไม่ว่าจะเช่าบ้านไปได้นานแค่ไหน แต่เราไม่มีสิทธิ์ได้เป็นเจ้าของบ้านเลย จึงควรสร้างสินทรัพย์ของเราในรูปแบบอื่นแทนให้ได้
จะเห็นได้ว่าขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละบุคคล บางคนให้ความสำคัญต้องการมีบ้านเพื่อเป็นเจ้าของสินทรัพย์ชิ้นใหญ่ หรือต้องการให้อสังหาริมทรัพย์ที่สามารถทำเงินให้เราได้ในอนาคตได้ หรือส่วนบางคนต้องการชีวิตอิสระในการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอันดับแรก ไม่ชอบมีภาระผูกมัดทางการเงินในระยะยาวหลายปี การเลือกซื้อบ้าน หรือเช่าบ้าน แบบไหนดีกว่ากัน เป็นคำถามสำคัญก่อนการพิจารณาตัดสินใจ สุดท้ายแล้วก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณเหมาะสมกับการซื้อบ้าน หรือ เช่าบ้าน มากกว่ากัน
ในไลฟ์สไตล์และช่วงเวลาของชีวิต ซึ่งหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ใครหลายๆคน ตัดสินใจที่จะซื้อบ้านหรือเช่าบ้าน ได้ง่ายยิ่งขึ้น แล้วคุณล่ะ อยู่ทีมไหน…?
หากต้องการกู้เงินสำหรับซื้อบ้านใหม่ หรือถ้าต้องการรีไฟแนนซ์บ้านกับ CCAP ซึ่งมีบริการปล่อยสินเชื่อ สามารถติดต่อแอดไลน์มาได้เลยที่ CCAP คลิก 👉🏻 https://lin.ee/NEBc1fz , LINE ID: @helloccap , เบอร์โทร: 092-256-6801
Reference